Review: Clinique id (สีฟ้า)



สวัสดีค่ะ โจวค่ะ กลับมาแล้วนะคะ และวันนี้โจวจะมารีวีวผลิตภัณฑ์ที่ช่วงก่อนหน้านี้ในวงการสกินแคร์ฮือฮากันอยู่กับเจ้า Clinique id มอยส์เจอไรเซอร์ปรับแต่งสูตรได้ ซึ่งมีมาให้เราเลือกให้เข้ากลับสภาพผิวของเราทั้งหมด 15 สูตร งั้นวันนี้เราจะมารีวิวทั้ง 15 สูตร ก็บ้าแล้วค่ะ อิ๊อิ๊ หยอกเล่นนะคะ วันนี้โจวจะเลือกรีวิว 1 สูตร ที่เข้ากับสภาพผิวของโจว แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับเจ้ามอยส์เจอไรเซอร์ตัวนี้กันสักนิดสักหน่อยก่อนนะคะ ตามมาๆ

สรรพคุณของ Clinique id



ด้วยความหลายสูตรของพี่เขาทำให้ในแต่ละสูตรมีความแตกต่างเกินขึ้นค่ะ ซึ่งวิธีการเลือกจะเริ่มต้นจากการเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวมา 1 ขวด ตามด้วยบูสเตอร์ที่ตรงกับปัญหาผิว หรือความต้องการของเรา 1 แท่ง เราก็จะได้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความสามารถในการช่วยบำรุงผิวของเราไปอีกขั้น ทีนี้มาลองดูกันว่าสรรพคุณของแต่ละมอยส์เจอร์ไรเซอร์และบูสเตอร์แต่ละตัว จะมีอะไรบ้าง โจวขอจัดเป็นกรุ๊ป 3 กรุ๊ปจากตัวมอยส์เจอร์ไรเซอร์แล้วกันนะคะ

 1.       Clinique Dramatically Different  Moisturizing  lotion+ (DDML)


ในตัวของคุณพี่ DDML (สายย่อ) ตัวนี้ เอาจริงๆ ใครที่คร่ำวอดในวงการสกินแคร์มานานต้องรู้จักแน่นอน เพราะคุณพี่เขาอยู่มายาวนานจริงๆ อยู่มาตั้งแต่รุ่นแม่เลยก็ว่าได้ แต่หากใครที่ยังไม่มีข้อมูลของพี่เขามากนัก อ่านต่อเลยนะคะ

DDML ตัวนี้เกิดมาเพื่ออุ้มชูหนุ่มสาวผิวแห้ง – ผิวผสม นะคะ ซึ่งจะทำให้ผิวนุ่มนวล เรียบเนียน ผิวดูสุขภาพดีขึ้น ผิวแลดูเปล่งประกาย พัฒนาขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง มอยส์เจอไรเซอร์สีเหลืองช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน เกลี่ยง่าย ซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ช่วยเสริมปราการปกป้องผิวตามธรรมชาติ เพื่อให้ความชุ่มชื้นได้ยาวนานขึ้น ผิวที่ชุ่มชื้นคือผิวที่แลดูเปล่งประกายดูอ่อนเยาว์ นี่คือสิ่งที่แบรนด์เคลมมา (จากประสบการณ์ของโจวที่ใช้พี่เขามานาน โจวแนะนำทาแค่ตอนกลางคืนนะคะ ทากลางวันแล้วสีผิวดูหมองคล้ำยังไงก็ไมรู้)

บูสเตอร์ ทางแบรนด์มีมาให้เลือก 5 สูตร สรรพคุณก็ตามด้านล่างเลยจ้า
สีเขียว สำหรับผิวที่มีการระคายเคืองง่าย
สีฟ้า สำหรับผิวที่ไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง
สีขาว สำหรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
สีส้ม สำหรับผิวอ่อนล้า ไม่สดใส
สีม่วง สำหรับผิวมีริ้วรอย

     2. Clinique Dramatically Different oil-control gel (DDOG)

ในส่วนของ DDOG เขาถูกส่งมาให้คู่กับหนุ่มสาวผิวมัน - มันมากนะจ๊ะ เป็นมอยส์เจอไรเซอร์สูตรเนื้อเจลนุ่มนวลปราศจากน้ำมัน ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ช่วยเพิ่มความสมดุลของความชุ่มชื่นตามธรรมชาติผิวให้สมบูรณ์ เป็นพื้นฐานสำหรับผิวสวยดูสุขภาพดี ทางแบรนด์ได้กล่าวไว้

บูสเตอร์ 5 ตัวเดิมด้านบนเลยจ้า

      3. Clinique Dramatically Different  hydrating  jelly (DDHJ)

DDHJ รักทุกโคนนนน เพราะขุ่นน้องคนนี้เขาเหมาะกับทุกสภาพผิวนะจ๊ะ น้องเขาจะเติมเต็มความชุ่มชื้นแก่ผิวพร้อม CleanShield Technology™ ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นยาวนานพร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะ เสริมปราการผิวตามธรรมชาติแตกต่างด้วยวอเตอร์เจลลี่เนื้อบางเบาสัมผัสสูตรพิเศษ ช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่นซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่มีน้ำมัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มีสิ่งตกค้างบนผิวผิวจะรู้สึกนุ่มเนียน แข็งแรง สุขภาพดี สะอาด แลดูเปล่งปลั่ง  

Clean Shield Technology™ คืออะไรมาดูกันค่ะ

Clean Shield Technology™ ได้รับการผสานกับส่วนผสมสร้างปราการความชุ่มชื้นแก่ผิวได้แก่ เม็ดทานตะวัน และสารสกัดจากแตงกวา ช่วยเสริมความแข็งแรงแก่ปราการปกป้องผิวทำให้รู้สึกสบายผิวมากขึ้น พร้อมรักษาสมดุลของผิว และช่วยคงระดับความชุ่มชื้นของผิวกรดไฮยาลูโรนิกมีคุณสมบัติเป็นสารดูดจับความชุ่มชื้นจากธรรมชาติ 

ทั้งหมดก็คือสรรพคุณที่ทางแบรนด์กล่าวไว้นะคะ ซึ่งสำหรับโจวแล้วน้อง DDHJ มีความน่ารักน่าคบหามาก ยิ่งช่วงPM 2.5 นี่น้องคือฮีโร่ของพรี่เลยค่ะ

บูสเตอร์ 5 ตัวเดิมด้านบนของด้านบนเลยจ้า

มีอะไรให้ใช้บ้างในไลน์ของ clinique id


มี 2 ตัวให้ใช้ค่ะ เป็นตัว Liquid Facial Soap และ Clarifying Lotion ซึ่งจะมีรายผลิตภัณฑ์ย่อยลงอีกเพื่อให้ครอบคลุมทุกสภาพผิว อย่างเช่นเซ็ตของโจวจะเป็น Facial Soap + Clarifying Lotion 2 Twice a Day Exfoliator + Dramatically Different  Moisturizing  lotion+ เป็น  3 ขั้นตอนในการบำรุงของ Clinique เขาเลยค่ะ

ฉันเลือกนายนะ DDHJ + บูสเตอร์ฟ้า


                อยากที่ได้แจ้งไปตั้งแต่ต้น โจว 1 คน คงจะรีวิวทั้ง 15 สูตรไม่ไหว โจวเลยเลือก 1 สูตรที่ตรงใจมานั้นก็คือ DDHJ ผสานเข้ากับบูสเตอร์พลังฟ้า ที่ช่วยเรื่องของผิวที่ไม่เรียบเนียน มีรูขุมขนกว้างนั้นเองค่ะ หลังจากใช้ไป 5 เดือนกว่าๆ สิ่งที่โจวได้รับนั้นถือว่าโอเคเลยค่ะ รูขุมขนดูเล็กลง  ซึ่งโจววัดจากความห่างในการส่องกระจกนะคะ คือ

1.  หน้าติดกระจก ยังคงมองเห็นรูขุมขนชัดเจน แต่บริเวณที่รูขุมขนกว้างมีบริเวณแคบลง รูขุมขนดูเล็กลง
2. ส่องกระจกแบบปกติ ยังคงมองเห็นรูขุมขนบางบริเวณ แต่ไม่ชัดเหมือนเมื่อก่อน สรุปคือทุกอย่างดูดีขึ้น
3. 1 ก้าวจากระจก เดิมมองเห็นรูขุมขนเล็กๆ บางเบา แต่ตอนนี้คือมองไม่เห็นเลยค่ะ เรียบเนียนไปเลย ดีมากมาย

สำหรับตัวโจวแล้ว โจวค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้นะคะ ถึงแม้รูขุมขนจะยังคงอยู่แต่ก็น้อยลงและเล็กลงกว่าเดิม คาดว่าถ้าใช้ติดต่อกันไปเรื่อยๆ สักปีสองปี รูขุมขนอาจจะจากเราไปตลอดกาลก็ได้ค่ะ ทีนี้วิธีการใช้ของโจวนะคะ โจวจะใช้ DDHJ + บูสเตอร์ฟ้า ในตอนเช้าและใช้ DDML เพียวๆ (ที่ยังมีอยู่) ลงตอนกลางคืนค่ะ เพราะส่วนตัวโจวก็ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ของค่ายนี้อยู่แล้วค่ะ และโจววางแผนการใช้มอยส์เจอไรเซอร์ต่อไปคือถ้าเจ้า DDML เพียวๆ ขวดนี้หมดก็จะจับตัว DDML + บูสเตอร์ม่วง ค่ะ ผลจะออกมาเป็นยังไงเดี๋ยวมาอัปเดทกันนะคะ

ราคา: 1,900 บาทค่ะ ได้มอยส์เจอไรเซอร์ 1 ขวด + บูตเตอร์ 1 แท่ง รวมกันเป็น Clinique id 1 ขวดจ้า

แล้วมันเหมาะกับใครอ่ะโจว
          แน่นอนเลยค่ะว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว เดินเข้าไปแล้วเลือกได้เลยค่ะ หรือถ้าไม่แน่ใจสอบถามพนักงานได้เลยนะคะเขาให้คำแนะนำได้ดีมากเลยค่ะ

บทส่งท้าย

            โจวว่ามอยส์เจอไรเซอร์กับการดูแลผิวหน้ามันมาควบคู่กันค่ะ สำหรับโจวแล้วการบำรุงผิวหน้าโดยมีมอยส์เจอไรเซอร์รวมอยู่ในขั้นตอนการบำรุง จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่โจวให้ความสนใจไม่แพ้ตัวอื่นเลยค่ะ เพราะหลังจากที่โจวลงโทนเนอร์แล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือมอยส์เจอไรเซอร์ค่ะ โจวลงเพื่อปรับสภาพผิวเติมความชุ่มชื้นที่หายไปจาการล้างหน้า เพราะหลังจากที่ลงไปแล้วมันเป็นอะไรที่ฟินมากๆ รู้สึกผิวหน้ากลับมานุ่มเด้งอีกครั้ง เพราะฉะนั้นอะไรที่ทำแล้วฟินทำไปเถอะค่ะ อย่างน้อยก็เป็นการขอบคุณผิวหน้าของเราหรือไม่ก็คิดง่ายๆ ว่า ครีมแต่ละตัวซื้อมาก็แพงเพราะฉะนั้นทาๆ โบกๆ มันลงไปทุกวันขนาดนี้ หน้าเราจะไม่ดีขึ้นก็ไม่ใช่แหละ



LOVE
ZHOU
      ซื้อเอง ใช้เอง รีวิวเอง
CR. Pic www.clinique.co.th

Comments

Popular Posts