LANEIGE Lip Sleeping Mask [Review] TH




“ว๊ายคุณน้อง ระวังปากแตกนะคะ”  คงเป็นคำพูดคุ้นหูสำหรับใครหลายๆ คนที่หลงเข้ามาอ่าน แต่ก่อนจะเริ่ม เรามาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนนะคะว่า “ปากแตก” ในที่นี้คือ “ปากแตก” จริงๆ นะเจ้าคะ แตกระแหงหลุดลอกสลายออกมาเป็นผุยผง บางครั้งบางคราก็ทิ้งบาดแผลไว้ให้เจ็บช้ำ ยิ่งตอนที่ไอเราอยากจะซดต้มยำรสเด็ดนี่ โอ๊ย..มันเป็นความเจ็บปวดที่ยากเกินบรรยาย มาค่ะ ใครกำลังประสบปัญหาที่ได้กล่าวมาข้างต้น มารวมกันตรงนี้ โจวมีของดีมาแนะนำ

สรรพคุณของ LANEIGE Lip Sleeping Mask

บำรุงริมฝีปากล้ำลึกและเหนือชั้น ด้วยทรีทเมนต์มาสก์เข้มข้น มอบความชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้าน ฟื้นฟูให้ริมฝีปากเนียนนุ่มชุ่มชื้นในข้ามคืน นี่คือสิ่งที่แบรนด์เคลมมา

มีอะไรให้ใช้บ้างในไลน์ของ LANEIGE Lip Sleeping Mask
           

ไม่มีค่ะ เท่าที่โจวทราบนะคะ แต่เจ้า Lip Sleeping Mask จะมีทั้งหมด 4 กลิ่น ประกอบด้วย Berry, Grapefruit, Apple Lime และ Vanilla ค่ะ

LANEIGE Lip Sleeping Mask ความชุ่มชื้นก็มี ความหอมฟรุ้งฟริ้งก็มา

            สำหรับโจวแล้วเจ้า Lip Sleeping Mask ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นขั้นสุด ปากนุ่ม รอยลอกเป็นขุยหายวับไปกับตาหากลงตัวมาส์กในปริมาณเยอะกว่าปกตินิดหน่อยค่ะ หลังทาแล้วปากไม่ได้ดูมันวาวมาก และไม่ได้มีความรู้สึกหนักปากขนาดนั้นนะคะ ให้อารมณ์บางๆ เบาๆ เหมือนน้ำค่ะ ลื่นๆ ทานอนได้สบาย และที่สำคัญติดทนนานในระดับที่ตื่นนอนมาแล้วยังมีผลิตภัณฑ์เหลืออยู่บนปากให้สัมผัสได้ ในส่วนของกลิ่นนี่ขาดใจตายกันไปเลยค่ะ หลังจากที่โจวได้ไปลองดมที่เคาเตอร์มาทั้ง 4 กลิ่น โจวหลงรักเจ้า Berry ที่สุดค่ะ โจวรับรองได้เลยว่า ใครที่หลงรักกลิ่นเบอร์รี่อยู่นี่ ตายสงบ ศพสีชมพูแน่นอนค่ะ น้องเขาหอมจริงหอมจัง แต่ไม่ได้หอมรุนแรงนะคะ มาอ่อนๆ แต่ได้กลิ่นตลอดค่ะ

            ผลลัพธ์: ส่วนตัวโจวเป็นคนปากแห้งนะคะ แต่แห้งเป็นหย่อมๆ ค่ะ โดยมี 3 จุดที่เป็นปัญหาหนักคือ ตรงกลางปากบน ด้านซ้ายและด้านขวาของปากล่างค่ะ โจวใช้เวลาในการทาติดต่อกันนาน 4 เดือน พบว่า ไม่มีปัญหาปากแห้ง ปากแตก กลับมาให้กวนใจอีกเลยค่ะ โดยโจวเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ 3 สัปดาห์แรกนะคะ ปากตรงส่วนไหนที่ไม่ค่อยมีปัญหาก็จะดูเนียนนุ่มขึ้นมาเลยค่ะ ปัญหาทั้งหมดเจ้า LANEIGE Lip Sleeping Mask ปิดงานให้โจวได้ในเวลา 4 เดือนค่ะ พร้อมให้ของแถมเป็นปากมีความชมพูขึ้นเล็กน้อย ย้ำนะคะว่าเล็กน้อย รอยคล้ำต่างๆ จางลงบ้างค่ะ
โจวทาเช้า-ก่อนนอน นะคะ เนื่องจากความแห้งหนักมากของปากในช่วงที่ทดลองใช้ ทำให้ผลลัพธ์เห็นชัดเจนเร็วขึ้น (หรือเปล่าไม่แน่ใจ) และโจวใช้ชีวิตอยู่ในห้องแอร์ทั้งวันทั้งคืนนะคะ มีออกไปด้านนอกบ้างแค่ 2-3 ชั่วโมงค่ะ

ราคา: 700 บาท ค่ะ ถือว่าแอบแพงสำหรับคนที่เคยใช้วาสลินกระปุกละ 99 บาทอย่างโจวค่ะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมานั้น 700 บาท ที่จ่ายไปเกินคุ้มค่ะ 1 กระปุกของน้อง โจวใช้มาร่วม 4 เดือน ยังไม่ถึงครึ่งเลยค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าคิดราคาต่อวันที่ทา เกินคุ้มแน่นอนค่ะ

แล้วมันเหมาะกับใครอ่ะโจว

          แน่นอนค่ะ คนที่มีริมฝีปากแห้งกร้าน แตกไม่หยุดฉุดไม่อยู่แล้วด้วยลิปมัน ไอเท็มนี้เป็นสิ่งที่คุณคู่ควรค่ะ และสำหรับคนที่ริมฝีปากไม่ได้มีปัญหาแห้งกร้านก็สามารถใช้ได้นะคะ ไม่จำเป็นเลยที่ต้องรอให้ริมฝีปากมีปัญหาก่อนแล้วถึงเริ่มใช้ ลิปมันหรือลิปมาส์ก ใช้ไปเถอะค่ะ เพราะปากก็ต้องการการบำรุงไม่ต่างจากผิวส่วนอื่นๆ นะคะ

บทส่งท้าย

          สำหรับโจวแล้ว การบำรุงริมฝีปากค่อนข้างสำคัญเป็นลำดับต้นๆ แล้วสำคัญตัวโจวเองในวันนี้ บางคนอาจจะมองว่าจะไปเสียเงินกับลิปคัลเลอร์และลิปมันราคาแพงให้มันได้อะไร ทาไปเดี๋ยวก็จางเดี๋ยวก็หลุดเดี๋ยวก็เช็ด สิ่งที่โจวจะบอกคนเหล่านั้นเสมอคือ เรื่องของGu ^O^


LOVE
ZHOU


Photo: www.laneige.com/th
..........ซื้อเอง ใช้เอง รีวิวเอง.......

Comments

Popular Posts